บทสรุปของผู้บริหาร
ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย ตั้งอยู่เลขที่ 20 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ภายใต้การบริหารงานของนางสาวสิริขวัญ ขวัญเมือง ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ เบอร์โทรศัพท์ 082-2880113 โดยโรงเรียนบ้านหนองบัวน้อยมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 11 คน จำแนกเป็นข้าราชการครู จำนวน 9 คน เจ้าหน้าที่ธุรการ จำนวน 1 คน และนักการภารโรง จำนวน 1 คน มีนักเรียนทั้งหมด จำนวน 101 คน จำแนกเป็นระดับก่อนประถมศึกษา จำนวน 17 คน และระดับประถมศึกษา จำนวน 83 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2568)
ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ
ยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ
ยอดเยี่ยม
จากการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย ส่งผลให้โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อยมีผลการประเมินตามมาตรฐานการศึกษาโดยภาพรวม อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ ในบทสรุปของผู้บริหารนี้ กระบวนการพัฒนา ผลการพัฒนา จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา จะนำเสนอโดยแยกตามรายมาตรฐาน และในส่วนของแนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้นจะนำเสนอในภาพรวม โดยมีรายละเอียดดังนี้
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา
สถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพของเด็กปฐมวัย โดยเน้นการส่งเสริมและพัฒนาให้ครอบคลุมในพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและและนอกห้องเรียน ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า (Executive Functions : EF) และ
มีการบูรณาการกับโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA
ผลการพัฒนา
1) เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ เด็กมีน้ำหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน สามารถดูแลรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตนและปฏิบัติจนเป็นนิสัย ปฏิบัติตนตามข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัย หลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค
สิ่งเสพติด ระวังภัยจากบุคคล สิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายได้
2) เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ดี ยอมรับและพอใจในความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น มีจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรมตามที่สถานศึกษากำหนด
3) เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในและนอกห้องเรียน และมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย สามารถเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
4) เด็กพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและสามารถแสวงหาความรู้ได้ สามารถสนทนาโต้ตอบและเล่าให้ผู้อื่นเข้าใจ ตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัยและพยายามค้นหาคำตอบ สามารถอ่านนิทานและเล่าเรื่องที่ตนเองอ่านได้เหมาะสมกับวัย
มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและจินตนาการได้
จุดเด่น
เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ
ด้านสังคม และด้านสติปัญญาที่เหมาะสมตามวัย และได้รับการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า (Executive Functions : EF) ผ่านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน และการบูรณาการกับโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA อย่างเป็นระบบ
จุดที่ควรพัฒนา
1) การจัดประสบการณ์วิทยาการคำนวณ เพื่อพัฒนาความสามารถด้านความคิดพื้นฐานในการเรียนรู้ให้กับเด็กปฐมวัย
2) การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า (Executive Functions : EF) ทั้ง 9 ด้านที่หลากหลายให้มากขึ้น
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ
ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา
สถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนากระบวนการบริหารและการจัดการ โดยมีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านและสอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น
มีการส่งเสริมให้ครูได้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีการจัดสภาพแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยีให้มีความปลอดภัยและเพียงพอกับจำนวนเด็ก และมีการบูรณาการกับโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA ภายใต้การมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ผลการพัฒนา
1) สถานศึกษามีหลักสูตรปฐมวัยที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาเป็นรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดการเตรียมความพร้อม ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
2) ครูผู้สอน ระดับปฐมวัยถึงแม้มีไม่ครบชั้นเรียน โดยมีครูผู้สอนเพียง 1 คน ทำหน้าที่จัดประสบการณ์ตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 1 ถึงชั้นปฐมวัยปีที่ 3 ด้วยการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ แต่เป็นครูประจำการที่จบการศึกษาปฐมวัย มีประสบการณ์ในการจัดประสบการณ์ปฐมวัยระดับชำนาญการ และมีการพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างต่อเนื่อง
3) ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้าของเด็กปฐมวัย โดยสามารถวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย
เน้นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล และมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
4) มีการจัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ที่มีความปลอดภัยและเพียงพอ
มีการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ทั้งแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม มีมุมประสบการณ์และสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย มุ่งเน้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้แบบเรียนปนเล่น และมีความสุขในการเรียนรู้
5) มีการให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ของครู
6) มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาปฐมวัย และมีการตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามกระบวนการระบบประกันคุณภาพภายในอย่างเป็นระบบ
จุดเด่น
สถานศึกษามีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย มีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนได้อย่างปลอดภัย และมีมุมประสบการณ์ให้กับเด็กได้เรียนรู้ สนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการด้านสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ให้กับครูผู้สอนได้ใช้งานอย่างสะดวก และครูได้รับการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง
จุดที่ควรพัฒนา
การจัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ให้มีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการปรับปรุง ซ่อมแซมและจัดหาเครื่องเล่นสนามเพื่อให้เด็กปฐมวัยได้เล่นและเสริมพัฒนาการให้มีความปลอดภัยและมีหลากหลายมากยิ่งขึ้น
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ
ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา
สถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนาการจัดประสบการณ์ที่เน้นให้เด็กได้รับการพัฒนาพัฒนาการทั้ง 4 ด้านอย่างสมดุล โดยการสร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการได้ลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) พร้อมไปกับการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า (Executive Functions : EF) ของเด็กในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกห้องเรียน ภายใต้บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และมีการประเมินพัฒนาการเด็กเพื่อการพัฒนาที่สอดคล้องตามสภาพจริง มีการบูรณาการกับโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการ ประจำปีประมาณ พ.ศ.2567 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA อย่างเป็นระบบ และมีการสร้างและส่งเสริมกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อให้ครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพ
ผลการพัฒนา
1) ครูมีการจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุล
เต็มศักยภาพ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ที่มีกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุกด้าน ดังนี้
ด้านร่างกาย เด็กสามารถเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม ร่างกายทุกส่วนทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่มัดเล็กให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านอารมณ์และจิตใจ เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักการรอคอย กล้าแสดงออก ช่วยเหลือแบ่งปันมีความรับผิดชอบ
ด้านสังคม เด็กช่วยเหลือตัวเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ มีวินัยในตนเอง เล่นร่วมกับผู้อื่นได้ มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่
ด้านสติปัญญา มีความคิดรวบยอด รู้จักการแก้ปัญหา สื่อสารและมีทักษะความคิดพื้นฐานแสวงหาความรู้ได้อย่างเหมาะสมตามวัย
2) มีการสร้างโอกาสให้เด็กได้ประสบการณ์ตรงจากการเรียนผ่านการเล่น โดยลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองและการเรียนรู้รายกลุ่ม
3) มีการจัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ชั้นเรียนมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีความเอื้อเผื่อเผื่อแต่ต่อกันและกัน เด็กได้รับการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมที่ดี
4) มีการประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง และนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
จุดเด่น
สถานศึกษามีการสร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง ได้ลงมือปฏิบัติจริงในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกห้องเรียน เด็กได้ฝึกทักษะที่จำเป็น เรียนรู้อย่างมีความสุขภายใต้การอำนวยความสะดวกของครูผู้สอน โดยที่ครูจัดประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิมของเด็ก ออกแบบกิจกรรมโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลางและเพิ่มเติมสิ่งที่เด็กควรรู้ตามช่วยวัยผ่านการออกแบบการจัดกิจกรรมในแผนการจัดประสบการณ์ตามหน่วยการเรียนต่างๆ ที่ได้ผ่านการวิเคราะห์หลักสูตรปฐมวัยและสอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็กปฐมวัย โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระตามความต้องการ ความสนใจและความสามารถของแต่ละบุคคล โดยในห้องเรียนปฐมวัย มีมุมประสบการณ์ให้เด็กได้เลือกเล่น เลือกทำกิจกรรมตามความสนใจของแต่ละบุคคลทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม ภายนอกห้องเรียจัดให้มีการจัดกิจกรรมแหล่งการเรียนรู้ เด็กปฐมวัยทุกคนทุกช่วงชั้นได้เลือกทำกิจกรรมต่างๆ ตามความสนใจของตนเอง
จุดที่ควรพัฒนา
1) การส่งเสริมให้ครูได้นำผลการประเมินคุณภาพเด็กมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
สู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดประสบการณ์เรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ให้มากขึ้น
2) การจัดห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจเหมาะกับเด็กปฐมวัยเพิ่มขึ้น
3) การส่งเสริมให้เด็กได้ศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นและชุมชนให้มากยิ่งขึ้น
แนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น
สถานศึกษามีแนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพของเด็ก กระบวนการบริหารและการจัดการ และการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญให้สูงขึ้น ดังนี้
1) ทบทวน ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการบริหารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ โดยได้ดำเนินการตามแนวทางแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 - พ.ศ.2670 และนำลงสู่การปฏิบัติเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณอย่างเป็นระบบตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management : SBM) โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA
2) พัฒนาและยกระดับคุณภาพของเด็ก กระบวนการบริหารและการจัดการ และการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญให้สูงขึ้น โดยการกำหนดเป็นโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ได้แก่
2.1) โครงการประกันคุณภาพภายใน
2.2) โครงการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัย
2.3) โครงการขับเคลื่อนกระบวนการคิดสู่ห้องเรียน
2.4) โครงการเข้าค่ายวิชาการ
2.5) โครงการวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
2.6) โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
2.7) โครงการนิเทศภายใน
2.8) โครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาสู่มืออาชีพ
2.9) โครงการปรับปรุงและพัฒนาระบบการเงินและพัสดุ
2.10) โครงการพัฒนาภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อม
2.11) โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
2.12) โครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2.13) โครงการสถานศึกษาสีขาว
2.14) โครงการโรงเรียนคุ้มครองเด็ก
2.15) โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้
2.16) โครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ชุมชนและภาคีเครือข่าย
2.17) โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย
3) พัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาคุณภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งระดับภายในสถานศึกษาและเครือข่ายทางวิชาการภายนอกสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ
|