บทสรุปของผู้บริหาร
ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย ตั้งอยู่เลขที่ 20 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ภายใต้การบริหารงานของนางสาวสิริขวัญ ขวัญเมือง ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ เบอร์โทรศัพท์ 082-2880113 โดยโรงเรียนบ้านหนองบัวน้อยมีบุคลากร จำนวน 11 คน จำแนกเป็นข้าราชการครู จำนวน 9 คน เจ้าหน้าที่ธุรการ จำนวน 1 คน และนักการภารโรง จำนวน 1 คน มีนักเรียนทั้งหมด จำนวน 101 คน จำแนกเป็นระดับก่อนประถมศึกษา จำนวน 17 คน และระดับประถมศึกษา จำนวน 83 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2568)
ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ระดับการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
จากการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งผลให้โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อยมีผลการประเมินตามมาตรฐานการศึกษาโดยภาพรวม อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ ในบทสรุปของผู้บริหารนี้ กระบวนการพัฒนา ผลการพัฒนา จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา จะนำเสนอโดยแยกตามรายมาตรฐาน และในส่วนของแนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้นจะนำเสนอในภาพรวม โดยมีรายละเอียดดังนี้
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา
สถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ โดยได้บูรณาการกับการจัดการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และการกำหนดเป็นโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการประจำปีงบระมาณ พ.ศ.2567 และ แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA
ผลการพัฒนา
1) ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ผู้เรียนมีสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณเหมาะสมตามระดับชั้นที่สถานศึกษากำหนด โดยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 สามารถอ่านและหาประสบการณ์จากสื่อที่หลากหลาย และจับประเด็นสำคัญ ข้อเท็จจริง ความคิดเห็นเรื่องที่อ่าน สามารถถ่ายทอดความคิดเห็น ความรู้สึกจากเรื่องที่อ่านโดยการเขียนได้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 สามารถอ่านเพื่อหาข้อมูลสารสนเทศเสริมประสบการณ์จากสื่อประเภทต่างๆ และจับประเด็นสำคัญ เปรียบเทียบ เชื่อมโยงความเป็นเหตุ เป็นผลจากเรื่องที่อ่าน สามารถถ่ายทอดความเข้าใจ ความคิดเห็น คุณค่าจากเรื่องที่อ่าน โดยการเขียนได้ ผู้เรียนมีความสามารถด้านการคิดคำนวณ การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ปัญหาได้ ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม และนำประสบการณ์มาใช้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ เช่น โครงงานตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาแต่ละสาระการเรียนรู้สูงกว่าที่สถานศึกษากำหนด
2) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดและเป็นแบบอย่างได้ คือ มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ผู้เรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทย โดยผู้เรียนมีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการสร้างผลงานของตนเองได้ทุกคนอย่างน้อยคนละ 1 ชิ้น ผู้เรียนยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคมที่ดีสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
จุดเด่น
สถานศึกษามีโครงการ/กิจกรรมที่หลากหลายซึ่งได้กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และได้บูรณาการกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทั้งในด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ภายใต้กระบวนการคุณภาพ PDCA อย่างเป็นระบบ
จุดที่ควรพัฒนา
ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในวิชาคณิตศาสตร์และวิชาภาษาอังกฤษ มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาเพื่อให้มีผลการทดสอบที่สูงขึ้น
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา
สถานศึกษาได้ดำเนินการทบทวน ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการบริหารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ โดยได้ดำเนินการตามแนวทางแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 - พ.ศ.2670 และนำลงสู่การปฏิบัติเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณอย่างเป็นระบบตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management : SBM) โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA
ผลการพัฒนา
1) มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน สถานศึกษามีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายรัฐบาลและของต้นสังกัด ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม
2) มีระบบบริหารจัดการคุณภาพ โดยสถานศึกษามีการวางแผนและจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี ซึ่งมีความสอดคล้องกับเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจของสถานศึกษา มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ และทันการเปลี่ยนแปลง มีการจัดทำแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ การดำเนินการตามแผน การติดตาม ตรวจสอบและรายงานผลการดำเนินงานด้วยวงจรคุณภาพ PDCA เพื่อนำผลมาปรับปรุงและพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง มีโครงสร้างการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management : SBM) แบ่งงานเป็น 4 กลุ่มงาน คือ งาน คือ งานบริหารงานวิชาการ งานบริหารงานบุคคล งานบริหารงานงบประมาณและงานบริหารงานทั่วไป มีการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาในรูปแบบคณะกรรมการ มีการบริหารอัตรากำลัง ทรัพยากรทางการศึกษา และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีระบบการนิเทศภายในอย่างเป็นกัลยาณมิตร และข้อมูลมาใช้ในการพัฒนา บุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนา และร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา จากการบริหารและการจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย มีการนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุง พัฒนางานอย่างต่อเนื่องและเป็นแบบอย่างได้
3) มีการดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย สถานศึกษามีการทบทวน และปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมีความสอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น จัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนพิการเรียนรวม โดยใช้แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) เพื่อพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพของแต่ละบุคคล จัดครูสอนตรงตามวิชาเอก มอบหมายงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถและความถนัด สนับสนุนให้ครูทุกคนมีเครื่องมือวัดและประเมินที่สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวชี้วัดในแต่ละสาระการเรียนรู้ และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและปฏิบัติจริง (Active Learning) ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลงานที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงและได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมการแข่งขันทักษะทางวิชาการในระดับต่างๆ
4) มีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพทางวิชาชีพตรงตามความต้องการของครูและสถานศึกษา สร้างและส่งเสริมกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อพัฒนางาน ส่งผลให้กระบวนการจัดการเรียนการสอนของครูมีคุณภาพ ผู้ปกครองเชื่อมั่นในการจัดการศึกษา
5) มีการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างหลากหลายและมีความปลอดภัย เช่น ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และป้ายนิเทศ มุมสื่อต่างๆในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เป็นต้น
6) มีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ สถานศึกษาได้จัดระบบการจัดหา การพัฒนาและการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา เช่น ติดตั้งระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (WIFI) ทั่วโรงเรียนเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของครู ให้สามารถใช้สื่อออนไลน์ได้ การรับส่งเอกสารทางราชการด้วยระบบ My Office และการใช้ช่องทางสื่อสารออนไลน์ เพื่อการประชาสัมพันธ์องค์กรและความรู้ต่างๆ ให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองทราบ เช่น Face Book โรงเรียน, กลุ่ม Line ผู้ปกครองชั้นเรียน เป็นต้น
จุดเด่น
สถานศึกษามีดำเนินการทบทวน ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการบริหารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และมีการดำเนินงานตามแนวทางแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 - พ.ศ.2670 และนำลงสู่การปฏิบัติเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณอย่างเป็นระบบตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management : SBM) โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA อย่างเป็นระบบ
จุดที่ควรพัฒนา
การจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีเพื่อการประชาสัมพันธ์องค์กร การมีจำนวนคอมพิวเตอร์ในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่เพียงพอกับจำนวนผู้เรียน การมีสื่อการเรียนรู้และห้องปฏิบัติการในสาระการเรียนรู้ดนตรี และศิลปะ
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา
สถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยได้ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และกรอบหลักสูตรท้องถิ่นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พัฒนาคุณภาพเครื่องมือวัดและประเมินผลให้มีความหลากหลาย เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวชี้วัดในแต่ละสาระการเรียนรู้และศักยภาพผู้เรียน และดำเนินการพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้และ
มีทักษะกระบวนการในการเขียนแผนการจัดการรู้และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และได้บูรณาการกับการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมที่ได้กำหนดในแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ มีการสร้างและส่งเสริมสร้างกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) ของครูเพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงทั้งระดับภายในสถานศึกษาและเครือข่ายทางวิชาการภายนอกสถานศึกษา
ผลการพัฒนา
1) มีการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของสถานศึกษา มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยผู้เรียนได้จัดทำและมีผลงานโครงงานในสาระการเรียนรู้ต่างๆ เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ในสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2) มีการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ครูผู้สอนมีการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากสื่อที่หลากหลาย เช่น ใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นสื่อการเรียนการสอนออนไลน์ จัดกิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ เพื่อเปิดโลกแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนและค้นหาความรู้ด้วยตนเอง และการใช้แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
3) มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ครูผู้สอนมีการบริหารจัดการชั้นเรียน โดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก ให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก เด็กรักที่จะเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข มีการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามระบบดูแลช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกัน และมีการเสริมแรงให้กำลังผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสม มีการจัดบรรยากาศชั้นเรียนทางกายภาพ ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น จัดมุมสื่อการเรียนรู้ จัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ และจัดกิจกรรมการสร้างการมีส่วนร่วมวางแผนในการจัดการเรียนรู้ร่วมกับผู้เรียน เป็นต้น
4) มีการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ครูผู้สอนมีการตรวจสอบและประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนโดยใช้เครื่องมือและวิธีการวัดและประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ และให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนเพื่อนำไปใช้พัฒนาการเรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ผู้เรียนที่พิการเรียนรวมได้รับการพัฒนาตามศักยภาพด้วยแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ได้รับคูปองทางการศึกษาในการจัดหาสื่อที่มีความเหมาะสมกับตัวผู้เรียน และสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินได้ทุกคน ผู้เรียนที่มีความสามารถและความเป็นเลิศทางวิชาการได้รับการส่งเสริมให้เข้าร่วมการแข่งขันทักษะทางวิชาการ จนประสบความสำเร็จทั้งในระดับเครือข่ายสถานศึกษา และระดับเขตพื้นที่ เป็นต้น
5) มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนทุกคนมีข้อมูลสะท้อนกลับและนำมาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ของครู ทั้งภายในสถานศึกษาและเครือข่ายทางวิชาการภายนอกสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ
จุดเด่น
ครูผู้สอนมีความรู้และมีทักษะกระบวนการในการเขียนแผนการจัดการรู้และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และมีการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูด้วยกระบวนการนิเทศ เพื่อสร้างวัฒนธรรมการนิเทศภายในโรงเรียนอย่างยั่งยืน และมีการสร้างและส่งเสริมสร้างกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) ของครูเพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงทั้งระดับภายในสถานศึกษาและเครือข่ายทางวิชาการภายนอกสถานศึกษา
จุดที่ควรพัฒนา
การจัดการเรียนรู้ของครูโดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning) ฝึกทักษะการปฏิบัติจริง ทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเป็นทักษะการเป็นนวัตกรของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ
แนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น
สถานศึกษามีแนวทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพของผู้เรียน กระบวนการบริหารและการจัดการ และกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้สูงขึ้น ดังนี้
1) ทบทวน ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการบริหารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ โดยได้ดำเนินการตามแนวทางแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 - พ.ศ.2670 และนำลงสู่การปฏิบัติเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณอย่างเป็นระบบตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management : SBM) โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA
2) พัฒนาและยกระดับคุณภาพของผู้เรียน กระบวนการบริหารและการจัดการ และกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้สูงขึ้น โดยการกำหนดเป็นโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ได้แก่
2.1) โครงการประกันคุณภาพภายใน
2.2) โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพัฒนาคุณภาพนักเรียน
2.3) โครงการขับเคลื่อนกระบวนการคิดสู่ห้องเรียน
2.3) โครงการเข้าค่ายวิชาการ
2.5) โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการใช้ห้องสมุด
2.6) โครงการแก้ปัญหาการอ่าน การเขียน
2.7) โครงการวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
2.8) โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
2.9) โครงการเข้าค่ายคุณธรรม และลูกเสือ เนตรนารี
2.10) โครงการพัฒนาทักษะการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ของ นักเรียน
2.11) โครงการนิเทศภายใน
2.12) โครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาสู่มืออาชีพ
2.13) โครงการปรับปรุงและพัฒนาระบบการเงินและพัสดุ
2.14) โครงการพัฒนาภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อม
2.15) โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
2.16) โครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2.17) โครงการสถานศึกษาสีขาว
2.18) โครงการโรงเรียนคุ้มครองเด็ก
2.19) โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้
2.20) โครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ชุมชนและภาคีเครือข่าย
2.21) โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย
3) พัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ทั้งระดับภายในสถานศึกษาและเครือข่ายทางวิชาการภายนอกสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ
|