บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
ชื่อโรงเรียน : โรงเรียนบ้านดุหุน
ที่อยู่ : เลขที่ - หมู่ที่ ๓ ตำบลบ่อหิน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
พิกัด 7.400297528909146, 99.42718026428398
พื้นที่โรงเรียนทั้งหมด 6 ไร่ 200 ตารางวา
เขตพื้นที่บริการทั้งหมด ๒ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ ๓ , หมู่ 9
สังกัด : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรังเขต 2
ชื่อผู้บริหารโรงเรียน : นางรชฏนันท์ พระคง
โทรศัพท์: 0๘๗๕๕๑๕๐๑๑
e-mail: duhun.school@gmail.com
website: https://data.bopp-obec.info /web/?School_ID=1092140214
ครูและบุคลากรของสถานศึกษา จำนวน ๑๔ คน ผู้เรียนจำนวน ๑๓๕ คน
ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา
๑. ระดับการศึกษาปฐมวัย สรุปผลการประเมินในภาพรวมอยู่ในระดับยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก มีผลการประเมินอยู่ในระดับยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีผลการประเมินอยู่ในระดับยอดเยี่ยม
๑. กระบวนการพัฒนา
โรงเรียนมีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนให้มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านอย่างสมดุล มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่หลากหลาย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง โรงเรียนมีการบริหารจัดการที่ คลอบคลุมด้านวิชาการ ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษาด้านสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ มีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning ด้วยเทคนิควิธีที่หลากหลาย จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย
๒. ผลการพัฒนา
เด็กมีร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถใช้มือและตาประสานสัมพันธ์กันได้ดีโรงเรียนมีหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เหมาะสมกับวัยเด็ก ได้รับประสบการณ์ตรง
๓. จุดเด่น
เด็กมีสุขภาพร่างกายเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน เด็กสามารถใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็กได้ อย่างคล่องแคล่ว และประสานสัมพันธ์กันเหมาะสมกับวัย มีสุขภาพแข็งแรงมีทักษะในการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 มีสุขนิสัยการรักษาสุขภาพอนามัยที่ดี มีสุขภาพจิตดี ร่าเริง แจ่มใส มีความสุข มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น เด็กปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว รู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นตามโอกาส รู้จักการออมเงิน สนใจเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ รอบตัวตามวัย กล้าซักถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัย และรักการเรียนรู้ มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู้ มีทักษะทางภาษาที่เหมาะสมกับวัย มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ โดยมีการจัดประสบการณ์ผ่านกิจกรรม การเรียนรู้ที่หลากหลาย มีหลักสูตรสถานศึกษาสอดคล้องกับความต้องการและบริบทของท้องถิ่น ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มีความรู้ ทักษะและประสบการณ์ในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก มีการจัดเอกสารการเรียน ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีสื่อ วัสดุอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ครูได้รับการพัฒนาด้านวิชาชีพ เด็กมีพัฒนาการพร้อมทั้ง ๔ ด้าน มีการวัดและประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการหลากหลาย มีระบบการนิเทศภายใน เพื่อการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอยู่อย่างสม่ำเสมอ มีการผลิตสื่อและนวัตกรรมสร้างสรรค์ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจัดการเรียนรู้ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีอย่างสมดุลรอบด้านตาม โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โครงการโรงเรียนคุณธรรม กิจกรรมจักรยานขาไถ พัฒนาEF ปลูกหญ้าทะเล ปลูกป่ากับธนาคารออมสินและปลูกเตยปาหนัน มีการระบุเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา โดยใช้กระบวนการ PDCA และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา ทั้งจากฝ่ายบริหาร คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา กรรมการที่ปรึกษา ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง เด็ก มีแผนงาน/โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กโดยออกแบบการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ ที่บูรณาการกิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยกิจกรรม ส่งเสริมทักษะสมอง และเปิดโอกาสให้ ผู้มีสวนเกี่ยวของทุกฝ่ายมีสวนร่วมในการจัดทำ มีโครงการการจัดการศึกษาปฐมวัย กิจกรรมพัฒนา
สภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ มีการจัดสภาพแวดล้อมห้องเรียนโดยจัดบรรยากาศการเรียนรู้ผ่านตามกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กจาก โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย กิจกรรมปลูกหญ้าทะเล ปลูกป่ากับธนาคารออมสินและปลูกเตยปาหนัน ภูมิปัญญาสอนทำอาหาร ของเล่นจากวัสดุธรรมชาติสถานศึกษาจัดกิจกรรมประชุมผู้ปกครองเด็กปฐมวัย สำรวจความคิดเห็นผู้ปกครอง วิเคราะห์ผลการพัฒนาของเด็ก นำผลไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็ก
๔. จุดที่ควรพัฒนา
การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กทุกคนมีทักษะการสื่อสาร มีพัฒนาการทางภาษา เช่น การเล่านิทาน การฟังนิทาน การใช้หนังสือสำหรับเด็ก การร้องเพลง การท่องบทกลอน คำคล้องจอง การเล่าเรื่องจากผลงาน การสนทนา การอภิปราย การเล่นเกม การแสดงละคร การเล่นบทบาทสมมุติ ฝึกให้เด็กกล้าแสดงออก ฝึกให้อยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข สร้างเสริมให้เด็กพัฒนาความคิด ความรู้สึกในบทบาทของตนเองและของผู้อื่น บูรณาการในทุกหน่วยการจัดประสบการณ์และกิจกรรมประจำวัน สำหรับเด็กที่ยังมีพัฒนาการไม่บรรลุเป้าหมายตามที่สถานศึกษากำหนด ควรจัดกิจกรรมเสริมทักษะและประสานความร่วมมือผู้ปกครองเข้ามามีบทบาทในการพัฒนา ร่วมนิเทศ ติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ เมื่อสิ้นสุดโครงการสถานศึกษาควรนำเสนอข้อมูลเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนรู้ สรุปผลรายงานผลผ่านทางเอกสาร ทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊ก เพื่อประชาสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทราบ ส่งเสริมขับเคลื่อนกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) มาพัฒนาคุณภาพของเด็กและแก้ปัญหาเด็กผ่านกระบวนการ PLC โดยสร้างความรู้ ความเข้าใจ และแนวทางการปฏิบัติให้กับบุคลากรในสถานศึกษา ด้วยการพาดู พาคิด พาทำ สร้างเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานภายนอก จัดทำแผนและเครื่องมือ กำกับ ติดตาม นิเทศ และประเมินผลการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC
เพื่อดำเนินการกำกับ ติดตาม นิเทศ และประเมินผลการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC สู่สถานศึกษา พร้อมบันทึกการนิเทศติดตามแนวทางการเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาครูในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็ก เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วม ในการฝึกฝนเพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มีการทำงานร่วมกัน และจะต้องจัดสรรเวลาเพื่อการพบปะสนทนา มีการกระจายภาวะผู้นำของผู้บริหาร โดยการเพิ่มอำนาจความรับผิดชอบให้แก่ครูในการปฏิบัติงาน ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาการสื่อสาร เพื่อให้ครูสามารถสะท้อน จุดแข็ง จุดอ่อนของเพื่อนครูอย่างสร้างสรรค์ภายใต้กรอบการทำงานเดียวกัน โดยกิจกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพเด็กเป็นสำคัญ จัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา เช่น การสอนภาษาแบบธรรมชาติ (Whole Language) สำหรับเด็กปฐมวัย เป็นการสอนภาษาแบบองค์รวม ให้เด็กมีทักษะการฟังนิทาน ฟังเพลง ฟังคำคล้องจอง ปริศนาคำทาย การเล่าข่าว การเล่านิทานจากภาพ การใช้หนังสือนิทานเล่มใหญ่ (Big Book) การแต่งนิทาน เขียนเล่าเรื่องลงในภาพ การเขียนพยัญชนะ ตัวเลขจากสื่อรอบตัวเด็ก เชื่อมโยงไปสู่การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน ครูจัดมุมส่งเสริมการอ่าน มุมนักวาดน้อย มุมหนูน้อยนักเล่า ให้เด็กสนทนาโต้ตอบ อภิปรายแสดงความคิดเห็น การใช้คำถามให้คิด ให้เกิดจินตนาการ จัดมุมนิทรรศการหนังสือสำหรับเด็ก มุมแสดงผลงานโดยเด็กมีส่วนร่วม ใช้สื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ บูรณาการทักษะการสื่อสารในกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม กิจกรรมร้องเล่นเต้นอ่าน ใช้สื่อบัตรภาพบัตรคำ สื่อของจริง สื่อธรรมชาติและสื่อเทคโนโลยี จัดบรรยากาศห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้จากการเล่นบทบาทสมมุติ เล่นตามมุมเสริมประสบการณ์ ให้เด็กเล่านิทานให้เพื่อนฟัง เปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกทั้งในและนอกสถานศึกษา นำเด็กไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น ร้านหนังสือ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ประสานความร่วมมือผู้ปกครองเข้ามามีบทบาทในการ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมทักษะทางภาษา ครูแนะนำผู้ปกครองในการเลือกหนังสือที่เหมาะกับเด็กจัดกิจกรรมให้ผู้ปกครองอ่านหนังสือให้เด็กฟังที่บ้านและนำเสนอผลงานเด็กผ่านทางไลน์กลุ่มผู้ปกครอง เมื่อสิ้นสุด โครงการสถานศึกษาควรนำเสนอข้อมูลเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนรู้สรุปรายงานผลการดำเนินงานผ่านทางเอกสาร ทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊ก เพื่อประชาสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องทราบ
5. แผนการดำเนินการเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น
ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ปกครอง ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เพื่อพัฒนาเด็กด้านการเรียนรู้ ด้านคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ควรมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา และการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษาควรมีการรักษาระดับคุณภาพ มาตรฐาน การจัดการศึกษาปฐมวัย โดยการจัดโครงการและกิจกรรมทุกกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
|